เมื่อสองปีที่แล้ว เวลาบอกใครว่าไปเล่นบอร์ดเกม ทุกคนยังงงงงอยู่เลยว่ามันคืออะไร ส่วนพ่อแม่ก็เข้าใจผิดว่าจะไปมั่วสุม มาตอนนี้บอร์ดเกมกลายเป็นสุดยอดกิจกรรมฆ่าเวลา ช่วยแก้เก้อเวลาไม่มีอะไรคุย ตอนเดทแฟน ตอนนัดเจอเพื่อนเก่า ยัน เพื่อนใหม่ที่ยังไม่คุ้นกันนัก
แต่นึกย้อนดูดีๆ บอร์ดเกมไม่ได้เพิ่งอยู่ในชีวิตเรา มันอยู่มาตั้งแต่เด็กแล้วนี่หว่า เพียงแต่วันนั้น เรายังไม่รู้จักกันในนามว่า "บอร์ดเกม" เอาละ ลองนั่งรถกลับไปบ้านหลังแรกที่เราโตมา คุ้ยถังของเล่นเก่า แล้วพบเข้ากับบอร์ดเกมในห้วงวัยที่หลงลืม - เกมถล่มนาซี เกมนักสืบหัวเห็ด และเกมฟุตบอล
เริ่มที่เกมแรก เราหยิบกล่องเกมนี้จากมุมมืดในบ้านที่ไม่มีใครแตะต้อง กลิ่นกระดาษเก่าลอยมา โชคดีที่เกมยังอยู่ในสภาพดีไม่มีมอดแทะ กระดาษแม้เป็นงานราคาถูกแต่ทุกอย่างยังอยู่ดีไม่มีขาดยุ่ย และที่สำคัญอุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ครบ นี่คือเกม "ถล่มนาซี"
ย้อนไปในช่วงปี 1940 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง คู่ต่อกรสำคัญคือ ฝ่ายนาซีเยอรมัน และ ฝ่ายสัมพันธมิตร ช่วงนั้นมีการใช้บอร์ดเกมเพื่อ Propaganda ยังเด็กๆชาวเยอรมันที่อนาคตจะเติบโตขึ้นมาบนแนวคิดแบบนาซี ด้วยเกมหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เกมบังคับ U-Boat และเครื่องบินรบ ถล่มชายฝั่งอังกฤษ , เกมตัดสัญญาณสื่อสารฝ่ายสัมพันธมิตร หรือแม้แต่เกมธีมสุดโหดอย่างกวาดล้างยิวกันเถอะ
จนมีคนกล่าวว่า "ความโหดร้ายที่สุด คือการทำให้ความโหดร้ายนั้น กลับกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด"
40 ปีต่อมา สงครามจบไปนานละ เหลือไว้แต่ประวัติศาสตร์ที่เปลี่ยนเป็นความบันเทิง เด็กเกิด 1980 อย่างเราก็เล่นเอาบันเทิงรัวๆ
เริ่มต้นด้วยการเปิดกล่องหาคู่มือ หาอยู่นานก็พบว่า มันพิมพ์อยู่ในฝากล่องนี่หว่า เกมนี้ไม่มีอะไรมาก เล่น 2-3 คน ถ้าเล่น 2 คนก็เลือกฝ่าย ฝ่ายนึงนาซีเยอรมัน และอีกฝ่ายคืออเมริกา ใครชิงธงชัยของฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนเป็นผู้ชนะ
ตัวกระดานแบ่งครึ่งเป็นสองฝั่ง ตอนเด็ก เรานี่แย่งกันเป็นอเมริกา แถมแย่งกันเอากระดานฝั่งรถถังด้วย แหงล่ะ ใครจะอยากเป็นนาซีและอยู่ฝั่งรถจี๊บสุดเห่ย เซ็ตอัพเกมเริ่มต้นเราต้องจัดเรียงไพร่พล ตลอดจนอาวุธยุทโธปกรณ์ตามจุดตัดของกระดาน โดยไม่ให้ฝั่งตรงข้ามเห็นว่าเราวางอะไรไว้ตรงไหน
อาวุธมีตั้งแต่ กับระเบิด ปืนกล ปืนอากาศยาน รถถัง ยันจรวด ส่วนไพร่พล ก็มีตั้งแต่ทหารช่าง ผู้หมวด ยันนายพล แต่ละตำแหน่งสามารถชนะบางสิ่ง และพ่ายแพ้ต่อบางสิ่ง เราก็ผลัดกันเดินไปคนละทีจนปะทะเข้ากับฝ่ายตรงข้าม
เมื่อปะทะต่างคนก็ต่างประกาศว่าหมากที่ตัวเองเดินคืออะไร แล้วจึงดูว่าของใครต้องแพ้ออกไปจากกระดาน เช่น ปืนใหญ่ชนะรถถัง รถถังแพ้จรวด ส่วนจรวดแพ้ทหารช่าง ทหารช่างแพ้นายพล เป็นต้น
ถ้าเล่น 3 คน เกมจะซับซ้อนขึ้นอีกเพราะผู้เล่นคนที่สามจะเป็นกรรมการสงครามที่คอยบอกผลว่าการปะทะแต่ละครั้ง ใครคือคนแพ้ ซึ่งทำให้เราต้องเดาหมากของฝั่งตรงข้ามว่าเป็นตัวอะไรกันแน่ แล้วจะได้ส่งกองกำลังไปจัดการได้ถูก
และเกมจะจบทันที เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกบุกจนยึดธงชัย แมคอินไตย ได้สำเร็จ วิธีเล่นง่ายแต่อาศัยความจำ และยังต้องวางกลยุทธ์ล่อหลอก คล้ายเล่นหมากรุก ที่ส่งตัวอ่อนไปแพ้เพื่อล่อตัวใหญ่ออกมาจัดการ เปิดทางเข้าวงใน ยังจุดที่คาดว่าเป็นที่ตั้งของธง เกมนี้แม้ผ่านไปสามสิบปี มาเล่นอีกที เฮ้ย มันส์มาก มีเกมไหนรีเมคเกมนี้รึยังนะ ใครรู้บอกที
เล่นไปสองรอบก็เจอ bug ของเกมที่ตอนเด็กไม่เจอ นั่นคือ 1. จรวดนั้นดีงาม บุกได้ชนะเกือบทุกตัว และ 2. กับระเบิดในเกมมันเดินได้ มันไม่ได้ฝังนิ่งๆ มันสามารถเดินเข้าเท้านายพล เดินเข้าหารถถังจนทำเอาวายวอดได้ เซอร์มาก
มาต่อกันที่เกมที่สอง เกมนักสืบหัวเห็ด
เกมนี้ไม่ได้หายหน้าไปไหนเลย เพราะเกมต้นฉบับซึ่งใช้ชื่อว่า Cluedo ยังคงวางขายอยู่ในปัจจุบัน โดยค่าย Hasbro ไปตามห้างใหญ่ก็ซื้อมาเล่นได้ละ
สำหรับคนที่ไม่เคยเล่นทั้งนักสืบหัวเห็ดและ Cluedo เกมนี้มีธีมอยู่ว่า ณ แมนชั่นสุดหรูแห่งหนึ่ง ได้เกิดเหตุฆาตกรรมขึ้น ระบบเกมจะสุ่มหยิบผู้เล่น 1 คน อาวุธ 1 อัน และสถานที่ 1 ที่ ขึ้นเป็นโจทย์โดยไม่มีให้รู้ คนเล่นต้องผลัดกันเดินไปตามห้องต่างๆและทิ้งการ์ดเพื่อทายตัดช้อยส์ไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอทั้ง ฆาตกร อาวุธที่ใช้ และที่เกิดเหตุได้ถูกต้องจึงจะชนะ
กระดานที่เคยเล่นตอนเด็กมีความดิบประมาณนี้ บ้านค่อนข้างวินเทจ
ส่วนกระดานยุคใหม่มีมุมมองแบบสามมิติแบบนี้
อุปกรณ์ของ Cluedo ในปัจจุบันก็ทำขึ้นใหม่อย่างดี เพื่อเข้าแจมในสนามบอร์ดเกมยุคใหม่ได้อย่างไม่อาย
พรั่งพร้อมด้วยอุปกรณ์ช่วยจำ กากบาทตัดช้อยส์สิ่งที่ไม่ใช่ จนทำให้เกมเล่นง่ายเกินไปอยู่ด้วย ทั้งที่เมื่อก่อนเราต้องเล่นแบบจำเอาทั้งสิ้น ว่าอันไหนใช่ไม่ใช่
และเกมสุดท้ายที่คุ้ยเจอ มันคือเกมฟุตบอล!!! เรียกได้ว่าชายไทยอายุในกลุ่ม 30 ปี ต้องโตมากับเกมนี้
วิธีเล่นกากมาก แค่เอาฐานนักเตะดีดบอลไปจนกว่าจะเข้าโกลฝั่งตรงข้าม แต่มันสนุกมากดีดได้ทั้งวัน เมื่อเราพาลูกไปใกล้ประตู คู่แข่งจะต้องขยับตัวผู้รักษาประตูมาบังมุมเราไว้ แค่นี้ แค่นี้เลย หิ้วไปเล่นโรงเรียนมันทุกวัน
ปกนี่เป็นใครวะตอนเด็กก็ไม่ทันได้สนใจ พอมีข้อมูลอยู่บนปกว่าเป็นช่วงฟุตบอลโลกปี 1982 (เด็กผู้ชายทุกคนก็เริ่มดูบอลเพราะว่าบอลโลกเนี่ยแหละ) พอลองหากูเกิ้ลความทรงจำก็กลับมาหมดเลย ชายเสื้อน้ำเงินคือ Paolo Rossi เบอร์ 20 ทีมชาติอิตาลี คนนี้ดังมากจำได้แล้ว ปีนั้นอิตาลีเป็นแชมป์ และ Paolo Rossi เป็นดาวซัลโว ได้ Golden Boot ซะด้วย แต่ชายกางเกงแดงนั้นคาดว่าเป็น Janusz Kupcewicz ตัวประกอบจากทีมชาติโปแลนด์ (ซึ่งปีนั้นก็ได้ที่ 3 เว่อร์มาก)
ตื่นเต้นจัด จนลืมถ่ายภาพกระดานมาให้ดู จึงขอจบรีวิวไว้เท่านี้ ขอตัวไปเล่นเกมก่อน
ขอบคุณที่อ่าน อย่าลืมกดไลค์เพจ กดติดตามและเลือก see first ด้วยนะ กราบ
โดย : พยัคฆ์อรุณบอร์ดเกม Payakarunboardgame 2017 Payakarun boardgame
www.facebook.com/payakarunboardgame
Comentarios